รีวิว all of us are dead
นับเป็นซีรีส์ netflix จากเกาหลี ที่พล็อตเรื่องก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไร ซีรี่ย์แนะนำ แต่ก็มีความน่าสนใจ โดดเด่น ในด้านทางการ แสดง บทบาท เพราะอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หนังเป็นที่ได้รับความนิยม สปอยซีรี่ย์ จนติดอันดับ nefflix คงจะเป็นนักแสดง ดูหนังฟรี ที่มีพื้นฐานแฟนคลับอยู่มากมาย จนประสบความสำเร็จมาแล้วจาก Kingdom ดัดแปลงจากเว็บคอมมิคชื่อเดียวกัน ดูหนังออนไลน์ ของเว็บตูน ชื่อภาษาไทย ตอนนี้…โรงเรียนของเรา เรื่องของเหล่านักเรียนที่ถูกขังอยู่ในโรงเรียนมัธยมฮโยซาน ขณะมีการแพร่กระจายของไวรัสซอมบี้ พวกเขาต้องช่วยกันเอาชีวิตรอดจนกว่าความช่วยเหลือจะมาถึงโดยไม่กลายเป็นพวกเดียวกับมันไปเสียก่อน นำแสดงโดย พัคจีฮู, ยุนชานยอง,ยู อิน-ซู, พัคโซโลมอน, ชเวอีฮยอน และอียูมี จากซีรีส์ดังกระฉ่อนโลกจากเน็ตฟลิกซ์ของปีที่แล้ว Squid Game หนึ่งในออริจินอลคอนเทนต์เกาหลีจาก Netflix อย่างซีรีส์ All of Us Are Dead มัธยมซอมบี้ ได้ปลุกกระแสผีดิบคลั่งขึ้นมาอีกครั้งหลังความสำเร็จของหลายเรื่องที่ผ่านมาจนขึ้นชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่ยังคงมาตรฐาน K-ZOMBIE เอาไว้ได้ดีเช่นเคย นอกจากความสนุกตื่นเต้นแล้วยังมีจุดสังเกตน่าหงุดหงิดอีกหลายประเด็นที่อยากพูดถึง
ผู้กำกับอีแจคยู ผู้นำทัพคนสำคัญได้ผนึกกำลังร่วมกับ นักเขียนชอนซองอิล หยิบเว็บตูนยอดฮิตตลอดกาลอย่าง Now at Our School ของ นักเขียนยูดงกึน มาสร้างเป็นซีรีส์ฉบับไลฟ์แอ็กชันจำนวน 12 ตอนโดยใช้ชื่อเรื่องชวนขนลุกว่า All of Us Are Dead ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กกลุ่มหนึ่งที่ติดอยู่ในโรงเรียนมัธยมปลายฮโยซันในขณะที่ฝูงซอมบี้กำลังออกอาละวาดไล่กัดผู้คนอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาจึงพยายามหาวิธีเอาตัวรอดเพื่อหนีตายออกจากอาคารเรียนซึ่งได้ชื่อว่าเป็นขุมนรกอย่างแท้จริง
รีวิว all of us are dead
รีวิวall of us are dead ‘All of Us Are Dead’ หรือ ‘มัธยมซอมบี้’ เป็น all of us are dead เต็มเรื่อง พากย์ไทย Netflix Original Series ที่ติดอันดับ Netflix top 10 ใน 91 ประเทศทั่วโลกหลังจากออกฉาย ด้วยเรื่องราวที่สนุกชวนลุ้น ซึ่งมีทั้งการหนีตาย ความรักวัยรุ่น ปมปัญหาชีวิตของแต่ละตัวละคร ถึงจะมีบางจุดที่ชวนให้ขัดใจกับตัวละครและทิศทางของเรื่องอยู่บ้างแต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องกดดูตอนต่อไปต่อจนจบ
เพราะความสนุกชวนให้อินของเรื่องไม่ได้ผูกอยู่แค่ที่ตัวละครและการตัดสินใจของพวกเขา แต่การที่เรื่องสะท้อนให้เห็นชีวิตของนักเรียนและสังคมเกาหลีได้อย่างน่าสนใจ ว่าซอมบี้ในเรื่องไม่ได้เกิดจากวิทยาศาสตร์และการทดลองเท่านั้น แต่เกิดจากสภาพสังคมที่มีความรุนแรง กดดันและกัดกินวิญญาณของเยาวชน
จนเหลือแค่เพียงความกลัวและการดิ้นรนเอาตัวรอด และผู้ใหญ่ที่เพิกเฉยต่อปัญหาก็เป็นมุมมองที่น่าสนใจอีกเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการใช้สัญญลักษณ์ที่ชวนให้นึกถึงเหตุการณ์เรือเซวอลล่ม ซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่ลากไส้ให้เห็นความล้มเหลวของการบริหาร และผลกระทบตกหนักอยู่ที่เยาวชน
สำหรับจุดเริ่มต้นการเกิดซอมบี้ของเรื่องนี้ไม่มีอะไรแตกต่างออกไปมากนัก ทำนองน้ำผึ้งหยดเดียวจากความอยากรู้อยากเห็นของนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่ดันแกว่งเท้าหาเสี้ยนด้วยความสงสัย จนทำให้ถูกหนูทดลองที่ติดเชื้อไวรัสซอบบี้กัดนิ้วจนเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นและไม่สามารถควบคุมตนเองได้
แม้ อีบยองชาน (รับบทโดย คิมบยองชอล) ครูสอนวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นเชื้อไวรัสดังกล่าวพยายามควบคุมเหตุการณ์ไม่ให้บานปลาย แต่ท้ายที่สุดเหตุการณ์อันร้ายแรงประหนึ่งวันสิ้นโลกก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
ซีรีส์มีความยาวมากถึง 12 ตอน ตอนละเกือบ ๆ 1 ชั่วโมง และปูเรื่องในช่วงแรกได้น่าสนใจดี โดยขยายความจากเรื่องการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียน จนหนึ่งในผู้ปกครองเด็กที่ถูกรังแกทนดูไม่ได้ที่ลูกอยากฆ่าตัวตายมากกว่าอยากจะลุกขึ้นสู้ จึงช่วยเหลือด้วยการฉีดสารกระตุ้นที่สกัดจากหนูทดลองที่จนตรอกให้กับลูกชาย และกลายสภาพเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือธรรมชาติที่เราคุ้นเคยอย่างซอมบี้เพื่อไปล้างแค้นโลกที่มันบิดเบี้ยวนี้
เรื่องย่อ
เป็นเรื่องราวของนักเรียนในโรงเรียนมัธยมปลาย ที่ต้องหนีจากเพื่อนที่กลายเป็นซอมบี้หลังจากมีนักเรียนผู้ติดเชื้อคนที่หนึ่งโดนหนูในห้องวิทยาศาสตร์กัดทำให้มีการแพร่เชื้อในโรงเรียนไปจนถึงนอกโรงเรียน ทำให้ผู้ที่เหลืออยู่ต้องหาทางเอาตัวรอดเมื่อไม่มีโทรศัพท์ หรือแม้แต่อาหาร และ ผู้ใหญ่ไม่สามารถเป็นที่พึ่งของพวกเขาได้เลย และ ผู้ชมก็ต้องคอยลุ้นว่าพวกเขาจะผ่านปัญหาเหล่านี้ไปได้อย่างไร
ความรู้สึกหลังรับชม/ความประทับใจ
สิ่งที่ประทับใจที่สุดในเรื่องนี้คงหนีไม่พ้นการสอดแทรกประเด็นทางสังคม all of us are dead season 1 พากย์ไทย อันหนักอึ้งไว้อย่างเฉียบคม ผ่านการเอาชีวิตรอดอย่างบ้าระห่ำของเด็กมัธยมกลุ่มหนึ่ง ที่ผู้สร้างได้หยิบยกเอา เยาวชน หรือว่า ความหวังของชาติ มาตั้งเป็นแกนหลัก ต่อยอดเรื่องราวให้แน่นขึ้นด้วยการผสานความเจ็บปวด ความแตกสลาย การถูกหล่อหลอม และ การต้องทนทุกข์อยู่ใน นรก เข้าไปในตัวละครหลักแต่ละคน
ซึ่งคนดูอย่างเราก็สามารถตีความนรกที่ว่านี้ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น นรกที่หมายถึงโรงเรียนที่ห่วงชื่อเสียงมากกว่าตัวนักเรียน , นรกที่หมายถึงผู้ใหญ่ที่ไม่เห็นค่าของเยาวชน , นรกที่หมายถึงค่านิยมการเรียนหนักของเด็ก หรือ นรกที่หมายถึงสังคมที่ปิดหูปิดตาต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโรงเรียน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเผลอ ๆ เลวร้ายกว่าการเจอซอมบี้เสียอีก
ในส่วนขององค์ประกอบยอมรับเลยว่าฉากซอมบี้ถล่มไล่กัดในช่วงต้น ๆ แล้วมุมกล้องเผยให้เห็นแบบกว้างเหมือนหนังฝรั่งคือดีมาก ๆ มันลองเทคให้เห็นความวุ่นวาย และ มีอยู่หลายตอน โปรดักชั่นของเกาหลีนี่น่าชื่นชมจริง ๆ เพราะตลอดทั้งสิบสองตอนมีมุมกล้องที่หลากหลายมีซูม มีความกระจาย และ ก็โชว์ความโหดร้ายของโลกได้อย่างสมจริง
อ้างอิงจากเหตุการณ์โควิดแล้วทำให้เรื่องราวนั้นดูน่าเชื่อถือ แต่ซีจีแอบลอยไปหน่อยในหลายฉาก ในด้านการออกแบบซอมบี้ที่อาจจะไม่ได้แปลกใหม่ไปจากเรื่องอืน ๆ แต่ก็มีเอกลักษณ์ และ มีความโหดที่แตกต่างกันออกไป แถมยังดูน่าเชื่อถือเพราะนักแสดงมีการเคลื่อนไหวที่เห็นแล้วใครไม่วิ่งก็คือตาย เพราะมันทั้งไว และ กัดไม่กี่นาทีคนก็กลายเป็นแบบมัน
นักแสดงนำแสดงได้ดีทั้ง ยุนชานยองในบทตัวเอกชายคนแรกที่ตอนต้นเรื่องอาจจะดูไม่ค่อยน่าสนใจ แต่พอในช่วงซอมบี้บุกเขากลับมีเสน่ห์ และ แสดงได้ดีมาก พัคจีฮูในบทตัวเอกหญิงที่เล่นดี สวย น่ารัก แต่บทที่บอกว่าฉลาดมีอยู่แค่ต้นเรื่อง ที่เหลือคือซุ่มซ่าม ไม่ห่วงตัวเอง ห่วงผู้ชาย อยู่ในรักสามเศร้าที่ชวนปวดหัว
ด้วยเส้นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนเป็นหลัก ความน่าสนใจประการแรกจึงอยู่ที่การจั่วหัวเรื่องอย่างตรงไปตรงมา ไม่สลับซับซ้อนจนหนักสมอง อัดแน่นความระทึกถึงใจสไตล์ซอมบี้เกาหลีที่มาด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการเดินที่ผิดรูปผิดร่าง เสียงกระดูกหักดังเปราะกระแทกหูตลอดทั้งเรื่อง
จนกระทั่งวิธีการกัดสุดโหด เสือดสาดไส้ทะลักจนบางฉากต้องหรี่ตาดูโดยไม่รู้ตัว ความสนุกตื่นเต้นเหล่านี้เสิร์ฟถึงผู้ชมตั้งแต่ 20 นาทีของตอนแรกไปจนถึงตอนสุดท้ายชนิดแทบไม่ได้พักหายใจหายคอ เรียกว่าวิ่งหนีกันจ้าละหวั่นจนคนดูแทบหอบ และ วิงเวียนแทนนักแสดง
นอกจากการเสียดสีสังคม All of Us Are Dead ยังสะท้อนปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนที่ทำให้ชีวิต การเป็นเด็กเกาหลีทรหดไม่แพ้ในหนังซอมบี้ อย่างเรื่องปัญหาการเหยียดชนชั้น ปัญหาท้องในวัยเรียน ความกดดันในการสร้างอนาคต และ เข้ามหาวิทยาลัย
แต่ประเด็นที่เด่นที่สุดแน่นอนว่าต้องเป็นการการบูลลี่ที่เป็นกระแสในเกาหลีตั้งแต่ครั้งข่าวเรื่องนักวอลเลย์แฝดหญิงใช้ความรุนแรงในโรงเรียน และ ยังคงเป็นประเด็นที่ผุดขึ้นมาเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่องด้วยกระแสแบนดาราเพราะเรื่องการใช้ความรุนแรงในอดีต จนถึงล่าสุดที่มีนักวอลลเลย์บอลชาย ‘คิมอินฮยอก’ ฆ่าตัวตายเพราะเสียงวิพากย์วิจารณ์ในอินเตอร์เน็ต
รีวิว all of us are dead
รีวิวall of us are dead All of Us Are Dead’ หรือ ‘มัธยมซอมบี้’ เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ All of Us Are Dead season 2 ที่น่าจับตามองของเน็ตฟลิกซ์เกาหลี ด้วยองค์ประกอบที่การันตีความนิยมอย่างเช่นรุ่นพี่ที่มีมาก่อนหน้า ทั้งเป็นการใช้ภาพจำซอมบี้กายกรรมที่วิ่งเร็วบ้าคลั่ง (และ ชอบบิดตัวรวมถึงทำสะพานโค้งอันเป็นเอกลักษณ์)
ที่ต้องยอมรับว่าเกาหลีทำซอมบี้แนวนี้จนกลายเป็นของตนเองได้แข็งแรงมากทั้งที่ไม่ใช่คนต้นคิดด้วยซ้ำ จากทั้งหนังอย่าง ‘Train to Busan’ (2016) หรือซีรีส์ ‘Kingdom’ (2019-2021) ซีรีส์เรื่องนี้ก็มาตอกย้ำภาพให้แข็งแรงขึ้นอีก
ทั้งยังเป็นการนำเนื้อหามาจากเว็บตูนผลงานของ จูดองกึน (Joo Dong-geun) ที่ฉบับภาษาไทยใช้ชื่อว่า ‘ตอนนี้ โรงเรียนของเรา..’ ซึ่งมีฐานแฟนการันตีความนิยมมาก่อนแล้ว คล้ายกับซีรีส์ ‘Sweet Home’ (2020) หรือ ‘Hellbound’ (2021) ที่ต่างเรียกกระแสความสนใจได้มากตั้งแต่แรกเช่นกัน
เมื่อซีรีส์ออกฉากมีหลายเสียงใน social media ที่ได้พูดถึงการที่องค์ประกอบบางอย่างในซีรีส์ชวนนึกถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเรือเซวอล และ เมื่อเราคิดกลับไป และ อ่านข้อมูลเพิ่มเติม ก็ยิ่งทำให้เห็นภาพสะท้อนนั้นชัดเจนขึ้นในเหตุการณ์ และ ตัวละคร อย่างครู และ ผู้ใหญ่ที่ทอดทิ้งเยาวชนเพื่อประโยชน์ส่วนตน ไปจนถึงริบบิ้นที่ใช้ไว้อาลัย ซึ่งอาจจะกำลังสะท้อนให้เห็นว่าทั้งสองโศกนาฏกรรมมีเหตุมาจากเรื่องเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีบทเรียนทางสังคมที่ซีรีส์พยายามนำเสนอให้เห็นในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นปัญหานักเรียนถูกกลั่นแกล้ง และ ล่วงละเมิดทางเพศจนสะสมเป็นความกดดัน และ ความแค้นจนเดินทางไปสู่การกระทำที่รุนแรง ความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวที่นำมาซึ่งการเสียสละในยามเข้าตาจน
เสียดสีวิธีการทำงานของภาครัฐ และ ความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนของคนบางกลุ่ม บางเรื่องกระทบใจจนน้ำตาแตก แต่บางเรื่องกลับแตะเพียงผิวเผินพอให้รู้ว่ามีซึ่งถือเป็นลายเซ็นของซีรีส์สไตล์ซอมบี้ยุคหลังที่จำเป็นต้องได้เห็นกันอยู่แล้ว
บทสรุป
ภาพรวมถือเป็นอีกครั้งที่เกาหลี All of Us Are Dead Season 1 สร้างสรรค์งานแนวซอมบี้ด้วยความน่าดูมากทีเดียว สนุกชนิดไม่ต้องตีความมาก ระทึกด้วยการไล่ล่า และ วิ่งหนีอย่างเต็มอิ่ม และ สมบูรณ์แบบ โปรดักชั่นที่น่าชื่นชมโดยเฉพาะลองเทคฉากบู๊ และ ซอมบี้บุกที่สมจริง ดนตรีประกอบฉากที่ช่วยสร้างบรรยากาศความหลอนระทึก และ เร่งดีกรีมากขึ้นทุกอีพี
รวมไปถึงงานสเปเชียลเมคอัพที่เนียนกริ๊บ ทั้งเลือดทั้งแผลสมจริงชวนแหวะเอาใจสายฮาร์ดคอร์เป็นพิเศษ ยังเต็มไปด้วยนักแสดงดาวรุ่งที่เสน่ห์ล้นเหลือ แม้จะแลกมาด้วยความน่าหงุดหงิดรำคาญใจที่มีมากอยู่พอสมควร แต่หากทำให้เราบ่นด่าจนอยากปรี่เข้าไปทึ้งหัวตัวละครได้แม้จะนั่งดูอยู่หน้าจอทีวีนั่นแปลว่าซีรีส์ประสบความสำเร็จแล้ว แม้ว่าผู้สร้างจะบอกว่ามันจบบริบูรณ์แล้วก็ตาม