รีวิว loki
ซีรี่ย์แนะนำ หากพูดถึงตัวร้ายในจักรวาลมาเวลที่คนชื่นชอบมากๆคงจะหนีไม่พ้น ธานอส และ โลกิ ซึ่งซีรีย์ที่ผมจะมาแนะนำวันนี้เป็นซีรี่ย์แยกของ ตัวร้ายอย่าง โลกิ ตัวร้ายเจ้าเสน่ห์ ที่จะการมาของเขานำมาซึ่งความปั่นป่วนของมัลติเวิร์ส ท่ามกลางสถานการณ์ความยุ่งยากในชีวิตจริง ทำให้ผู้เขียนห่างหายจากการดูหนัง และ ซีรีส์ แต่นั่นก็ทำให้ได้รู้ว่าตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสของซีรีส์ Loki (โลกิ) ใน Disney+ Hotstar นั้นไม่ได้ลดลง สิ่งที่เกิดขึ้น และ บทสรุปของซีรีส์นี้กลายเป็นหัวข้อถกเถียงกันได้ไม่รู้จบ ถึงการเปิดเส้นทางใหม่ของจักรวาล MCU (Marvel Cinematic Universe) กับเรื่องของ Multiverse หรือ จักรวาลคู่ขนาน
สปอยซีรี่ย์ ซีรีส์ขยายจักรวาล MCU ที่ปั่นป่วน และ ก๊วนโอ๊ย ทั้งยังทรงพลังโดยการเล่าเรื่องของตัวร้ายในจักรวาลมาร์เวลที่ใครหลายคนหลงรักอย่างโลกิ ด้วยพลังนักแสดงของทอม ฮิดเดิลสตัน และ โอเว่น วิลสัน ทำให้มันเป็นซีรีส์มีครบทุกรสทั้งแอ็คชั่น ฮา รัก ดราม่า น่าตกตะลึง ด้วยดนตรีประกอบสุดล้ำ และ งานสร้างที่แสนอลังการในระดับจักรวาล
แม้ว่าซีรีส์จะเน้นบทสนทนามากกว่าการขายฉากแอ็คชั่นที่ทำออกมาไม่ดีเท่าที่ควร พล็อตโฮลที่ดูเป็นการจับยัดเพื่อให้เข้ากับเรื่องราวของซีรีส์ และ จักรวาล และ ช่วงตอนครึ่งซีซั่นที่เน้นความสัมพันธ์จนทำให้เรื่องแอบอืด ๆ ช่วงตอนสุดท้ายจะเน้นบทสนทนามากกว่าการโชว์พลังระดับใหญ่ และ ทำให้พลังของซีรีส์ดร็อปลงก็ตาม ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
รีวิว loki
รีวิว loki LOKI (โลกิ เทพซ่าส์ล่าข้ามเวลา) มินิซีรีส์อเมริกัน สร้างขึ้นสำหรับดิสนีย์+ โดยไมเคิล วอลดรัน เนื้อเรื่องอิงตามตัวละครมาร์เวลคอมิกส์ในชื่อเดียวกัน โดยเป็นซีรีส์เรื่องที่สามของดิสนีย์พลัสที่อยู่ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) เนื้อเรื่องมีความต่อเนื่องกับภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ของแฟรนไชส์
ละครชุดนี้ผลิตโดยมาร์เวลสตูดิโอส์ โดยมี ไมเคิล วอลดรัน รับหน้าที่เป็นผู้เขียนบท และ เคท เฮอร์รอน เป็นผู้กำกับ เดินเรื่องต่อเนื่องกับภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ของแฟรนไชส์ เนื้อเรื่องเกิดขึ้นหลังจาก อเวนเจอร์ส: เผด็จศึก ในปี 2019
โดยโลกิที่ปรากฏในเรื่องคือ โลกิ ในช่วงเหตุการณ์ในดิ อเวนเจอร์ ปี 2012 ที่สามารถหลบหนีจากอเวนเจอร์ได้ เนื่องจากทีมอเวนเจอร์จากอเวนเจอร์ส: เผด็จศึก ย้อนเวลากลับมาเพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคต ทำให้เขาสามารถใช้เทสเซอร์แร็คหลบหนีไปได้ และ เปิดตัวองค์กร TVA (Time Variance Authority) หรือ หน่วยพิทักษ์เวลาในจักรวาลครั้งแรก
เรื่องย่อ
เรื่องราวที่ย้อนกลับไนปี 2012 บนสตาร์กทาวเวอร์ ที่โลกิ เลาฟิสัน ขโมยอัญมณีเทสเซอร์แรคท์ไป ทำให้เขาถูกองค์การกำกับสาขาเวลา (หรือที่เรียกย่อๆ กันว่า TVA) จับตัวไปคุมขังกักตัว ในข้อหาละเมิดเส้นเวลาศักดิ์สิทธิ์ และ เขาถูกเรียกว่า ‘ตัวแปร’ (Variant) Loki Season 1
ขณะเดียวกัน องค์การกำกับสาขาเวลา ก็กำลังเผชิญเหตุไม่คาดฝัน มีคนจู่โจม และ ขโมยตะเกียงประจุรีเซ็ตไป โมเบียส (Owen Wilson จากหนังเรื่อง Wonder, No Escape และ Midnight in Paris) เจ้าหน้าที่คนสำคัญผู้ดูแลงานนี้อยู่ก็ถูกเรียกให้มารับหน้าที่ดูแลเป็นการเฉพาะ เขามีเป้าประสงค์ต้องการให้โลกิช่วยจับตัววายร้ายตัวแปรตัวนี้แลกกับการได้พบผู้พิทักษ์เวลา
ความรู้สึกหลังรับชม
การเดินเรื่องในครึ่งซีซั่นก็คือเน้นบทสนทนา และ ความสัมพันธ์กว่าจะได้บู๊จริง ๆ และ ก็มีน้อยด้วย อาจเพราะด้วยซีรีส์ต้องการจะโชว์พล็อต และ ไอเดียสร้างสรรค์เกี่ยวกับเวลา เนื้อเรื่องกับบทสนทนาจึงเป็นหัวใจสำคัญของเรื่องมากกว่าฉากแอ็คชั่นในสไตล์หนังซุปเปอร์ฮีโร่
และ ด้วยความยาวของตอนที่มีเพียงแค่หกตอน แต่เมื่อดูจบแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่อิมแพ็คเท่าที่ควร แม้จะทิ้งอะไรหลายอย่างให้ติดตามต่อในซีซั่น 2 ที่ประกาศหลังซีซั่นแรกจบ ในฐานะซีรีส์มาเวลที่มีสองซีซั่น การเฉลยปมก็ดูเป็นการจับยัดที่มาร์เวลต้องการโยงจักรวาลให้มีเหตุผล ว่าทำไมโลกิถึงต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง ฟังดูจะกลบพล็อตโฮลได้ แต่ก็ไม่เลย มันก็ยังดูเป็นอะไรที่แค่นั้นเหรอ อย่างงั้นเองเหรอ ด้วยตอนท้ายที่ไม่มีฉากอลังการหรือตูมตาม
แต่กลับเปิดตัวร้ายจริง ๆ ของเรื่องให้ได้เห็นความน่ากลัวกับบทสนทนาที่ปั่นประสาท และ น่าสะพรึงกว่าทานอสในตอนอเวนเจอร์ เฟสก่อน ๆ อีก เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะมันสามารถควบคุมการไหลของกระแสเวลาได้ และ เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
ซึ่งผมจะไม่บอกว่าเป็นใคร แต่ผลกระทบมันขยายกว้างมาก ๆ หลังจากที่คุณดูซีรีส์จบ และ ยิ่งทำให้คุณงงว่าจะตามจักรวาล หรือจะรอดูซีรีส์ซีซั่น 2 ดี เพราะยังรู้สึกได้ว่ามันน่าจะเล่าเรื่องในตัวของมันได้อยู่ ซึ่งเป็นข้อดี เพราะมันก็ยังดูสนุกโดยไม่ต้องอิงจักรวาลสักเท่าไหร่ Loki Season 2
รีวิว loki
รีวิว loki ซีรีส์เรื่องนี้เดินเรื่องแบบสไตล์เล่า และ รู้ไปตามเนื้อเรื่องผสมกับตลก และ ต้มตุ๋นไปมา ไม่เปิดเผยตัวเรื่องราวหรืออะไร ให้เราเป็นตัวแทนกับโลกิสำรวจไปในเรื่องราวทั้งในด้านของตัวตนที่แท้จริงของโลกิ และ ตัวละครรอบตัวทั้งดี และร้ายที่ค่อย ๆ ผลักดันให้เรื่องราวมีความเข้มข้นในแบบฉบับของซีรีส์ที่เน้นพล็อตมากกว่าฉากแอ็คชั่นแต่ก็ยังไม่ทิ้งความอลังการในแง่คอนเซปต์ที่ล้ำที่สุดในจักรวาล MCU แถมหยอกเย้ากับประวัติศาสตร์จริง ๆ ที่ไม่มีคำอธิบายชัดเจน
แต่ก็ยังดูเชื่อได้ว่ามันเกิดขึ้นในจักรวาลกับองค์กร TVA ที่มีบทบาทสำคัญของเรื่อง เราอาจจะเคยเห็นพวกซีรีส์แนวสืบสวนไล่ล่าข้ามเวลาแบบ Dr.who ที่ตัวละครไปในยุคต่าง ๆ แต่เรื่องนี้เล่นใหญ่ขนาดที่ว่าบทสรุปของเรื่องทำเอาค้างเติ่ง และ ทิ้งปมให้จักรวาลมากมาย
ตัวละครในเรื่องก็ไม่ได้เยอะมากมาย ส่วนใหญ่จะมาในบทรับเชิญแต่เซอร์ไพรส์ในทุกหน้าที่โดยเฉพาะคนที่ตามจักรวาลคอมมิค แต่ในแง่ของคนนอกที่เพิ่งมาดูคุณก็สามารถดูเรื่องนี้ได้เหมือนกัน ต่างจากซีรีส์เรื่องก่อน ๆ ที่คุณต้องทำความเข้าใจ แต่เรื่องนี้คือพาคุณเข้าไปเห็นได้สัมผัสโดยที่ไม่ต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับหนังเลยสักนิด
เพราะมันคือเนื้อเรื่องในตัวของมัน แค่ผลพวงในตอนท้ายมันส่งต่อไปถึงสื่ออื่น ๆ ในมาร์เวล ทั้งในหนังในจักรวาลที่กำลังจะออกฉาย และ ได้รับผลกระทบจากซีรีส์อย่าง What If…?, Spider-Man: No Way Home, Doctor Strange in the Multiverse of Madness ที่ต่อยอดมาจากช่วงท้ายของ Wandavision และ ซีรีส์เรื่องนี้ที่โลกิจะได้ไปปรากฏตัวในภาพยนตร์ รวมถึง Ant-Man and the Wasp: Quantumania Loki Marvel
สรุป
ใครรักชอบโลกิต้องดู ใครอยากรู้จักจักรวาลมากกว่าที่เคยสัมผัสต้องดู ใครอยากดูซีรีส์เล่าเรื่องเกี่ยวกับเวลาล้ำ ๆ ต้องดู เพราะมันคือซีรีส์คุณภาพที่มาพร้อมกับนักแสดงที่ทรงพลัง ดนตรีประกอบสุดอลัง และ คอนเซปต์เรื่องกาลเวลาสุดล้ำที่สามารถสร้างผลกระทบกับจักรวาล MCU อย่างใหญ่หลวง
แม้จะมีจังหวะการเล่าเรื่องที่อืดไปบ้างในช่วงครึ่งซีซั่น หรือตอนท้ายจะตกม้าตายในสไตล์ซีรีส์ในจักรวาล MCU เหมือนเรื่องก่อนหน้า แต่มันก็คือลิขิตอันทรงเกียรติแล้วหากได้ดูเรื่องนี้ ประเด็นที่อ้างอิงจากโลกแห่งความจริงที่เรียบง่ายแต่กินใจ มีมุกตลกคอยมาเบรคอารมณ์ มีความสัมพันธ์รักชวนโรแมนติก มีฉากแอ็คชั่นที่ผ่าน ๆ ตา ตัวละครที่น่าจดจำในแทบทุกตัว และ ปูไปสู่เรื่องราวในจักรวาล และ ซีซั่นสองที่ประกาศเดินหน้าถ่ายทำแล้ว
ไม่แน่คุณที่ดูเรื่องนี้อาจจะต้องไปทำความโลกิเพิ่มเติม หรือลงแดงมากกว่าเดิมในตอนท้ายอย่างแน่นอน ถือเป็นซีรีส์ดีที่ไม่ได้ดีเวอร์มาก แต่ก็เป็นซีรีส์ที่มีอะไรดี ๆ ให้ได้หยิบจับสัมผัสผ่านตัวละครโลกิ โดยไม่ต้องเพิ่งพลังของตัวละครซูปเปอร์ฮีโร่คนอื่น ๆ ที่มีในมาร์เวลเลย แต่ว่าหากอยากรู้ว่าผลที่เกิดขึ้นหลังจากซีรีส์เป็นอย่างไรก็จงติดตาม วอทอิฟ อนิเมชั่นซีรีส์ที่ทอม ฮิดเดิลสตัน นักแสดงบทโลกิบอกว่า มันจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากผลพวงในตอนท้ายซีรีส์โลกิ แค่ ง Loki