รีวิว moon knight
ซีรี่ย์แนะนำ สวัสดีครับวันนี้ผมมีซีรีย์ของ marvel มาแนะนำ ณ เวลานี้ Marvel มีหนังในจักรวาลมากมายนับไม่ถ้วน และยังคงเดินหน้าสร้างซีรีส์ในจักรวาล MCU อยากไม่หยุดหย่อน เพราะจักรวาลนี้มันกว้างแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีที่สิ้นสุดเลยก็ว่าได้ เพื่อลงฉายใน Disney+ อย่างต่อเนื่องครับ และถ้าเอาตามความรู้สึกของผู้เขียนเองล้วน ๆ ก็คือ Marvel เองเริ่มจะจับทางกับซีรีส์ถูกแล้วล่ะ ค่อนข้างชัดเจนเลยว่า Marvel ต้องการพยายามครีเอตวิธีและรูปแบบการนำเสนอให้มีความแปลกใหม่ มีความเฉพาะตัว เพื่อรักษาสมดุลของคนดู ระหว่างมือใหม่หัด Marvel กับแฟนเดนตายให้ไม่หนีจากกันมาก
สปอยซีรี่ย์ เรียกได้ว่าปีนี้ เป็นอีกปีทองของทางฝั่งฮีโร่ Marvel อีกปีหนึ่งเลยก็ได้ เพราะนอกจากการกลับมาของหนังเดียว หมอแปลก Doctor Strange in the Multiverse of Madness ก่อนหน้านี้ทางมาร์เวล์ก็ได้ปล่อยฮีโร่คนใหม่ของค่ายอย่าง Moon Knight ฮีโร่สายดาร์กที่มาพร้อมกับอาการหลายบุคคลิก ที่เพิ่งจบซีซั่นแรกไปเมือวันที่ 4 เม.ย. 2022 ที่ผ่านมา ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
รีวิว moon knight
รีวิว moon knight ถ้าเอาตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ ซีรีส์ลำดับที่แล้วอย่าง ‘Hawkeye’ (2021) ก็มีความเป็นซีรีส์กลิ่นอายคริสต์มาสแบบเต็ม ๆ และพอมาถึงซีรีส์อันดับที่ 6 อย่าง ‘Moon Knight’ หรือ ‘มูนไนต์’
ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Marvel เลือกหยิบเอาคาแรกเตอร์ซูเปอร์ฮีโรที่มีธีมของความเป็นอียิปต์โบราณ และผสมผสานกับคาแรกเตอร์ที่มีปัญหาทางจิต มีอาการโรคหลายบุคลิก (Dissociative Identity Disorder-DID) และเรื่องราวต้นฉบับอันสลับซับซ้อนที่ว่าด้วยตัวละครที่มีบุคลิกซับซ้อน เสมือนว่ามีอีกคนมาอาศัยร่างอยู่มานำเสนอ
โดยในซีรีส์ได้ทีมผู้กำกับ 3 คนมาร่วมกันกำกับมินิซีรีส์ความยาว 6 ตอนนี้ ทั้ง ‘จัสติน เบนสัน’ (Justin Benson) และ ‘อาร์รอน มัวร์เฮด’ (Aaron Moorhead) ผู้กำกับคู่หูจากภาพยนตร์ ‘Synchronic’ (2019) และ ‘โมฮัมเหม็ด ดิอับ’ (Mohamed Diab) ผู้กำกับชาวอียิปต์แต๊ ๆ ที่เคยกำกับภาพยนตร์ ‘Clash’ (2016) มารับหน้าที่กำกับ Ep.1 ก่อนใครเพื่อน และยังมี ‘เจเรมี สเลเตอร์’ (Jeremy Slater) ผู้ผ่านงานเขียนบท ‘The Umbrella Academy’ (2019) และ ‘Fantastic Four’ (2015) มารับหน้าที่เขียนบท
ถ้าเอาตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ ซีรีส์ลำดับที่แล้วอย่าง ‘Hawkeye’ (2021) ก็มีความเป็นซีรีส์กลิ่นอายคริสต์มาสแบบเต็ม ๆ และพอมาถึงซีรีส์อันดับที่ 6 อย่าง ‘Moon Knight’ หรือ ‘มูนไนต์’ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Marvel เลือกหยิบเอาคาแรกเตอร์ซูเปอร์ฮีโรที่มีธีมของความเป็นอียิปต์โบราณ และผสมผสานกับคาแรกเตอร์ที่มีปัญหาทางจิต มีอาการโรคหลายบุคลิก (Dissociative Identity Disorder-DID) และเรื่องราวต้นฉบับอันสลับซับซ้อนที่ว่าด้วยตัวละครที่มีบุคลิกซับซ้อน เสมือนว่ามีอีกคนมาอาศัยร่างอยู่มานำเสนอ
การดำเนินเรื่อง
เนื้อเรื่องของอีพีแรกว่าด้วย ‘สตีเวน แกรนต์ / มาร์ก สเปกเตอร์ / มูน ไนต์’ (Oscar Isaac) พนักงานขายของที่ระลึกในพิพิธภัณฑ์อียิปต์ ผู้มีความรู้ด้านอียิปต์โบราณแบบแฟนพันธุ์แท้ สตีเวนประสบปัญหาประหลาด เมื่อเขาหลับ เขามักจะไปตื่นในสถานที่แปลก ๆ ที่ไม่คุ้นเคย
แถมยิ่งนานเข้า เขาก็ยิ่งเข้าไปพบเจอกับสถานการณ์ที่ยิ่งแปลกยิ่งกว่า แถมตัวเขาดูเหมือนจะมีเสียงอะไรบางอย่างมาบงการเขาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็น่าจะเป็น ‘คอนชู’ (พากษ์เสียงโดย F. Murray Abraham) เทพแห่งจันทราตามตำนานอียิปต์ นั่นก็เลยทำให้เขาเริ่มมีพฤติกรรมแปลกแยกจากคนอื่น ๆ แถมยังดูเป็นคนความจำสั้นไปเสียอย่างนั้น moon knight ดูได้ที่ไหน
ความรู้สึกหลังรับชม
สิ่งแรกที่ผู้เขียนพอจะสัมผัสได้เมื่อได้ชม Ep.1 ก็คือ ด้วยความที่ ‘Moon Knight’ เองนั้นเป็นฮีโรจาก Marvel Comics ที่ไม่เคยถูกหยิบเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์ หรือแม้แต่ปรากฏตัวใน MCU มาก่อน ตัวเนื้อหาก็เลยไม่ได้อ้างอิงหรือเชื่อมโยงเนื้อหาใน MCU มากนัก
แม้ว่าดูจะไม่ค่อยมีอะไรแบบนี้ แต่ก็แอบมี Easter Egg ที่พอจะอ้างอิงได้ว่า มันเป็นเหตุการณ์หลังจากซีรีส์ ‘Hawkeye’ (2021) นั่นแหละนะครับ และยังไงก็น่าจะมี Easter Egg ไปถึงซีรีส์ Marvel เรื่องอื่น ๆ ทั้งเรื่องราวในอดีต หรือแม้แต่เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วยก็อาจเป็นไปได้นะครับ ต้องลองดูอีพีต่อ ๆ ไปกันอีกที
สำหรับผู้เขียน สิ่งที่โดดเด่น นอกจากโปรดักชัน ซีจี การถ่ายทำ ที่ทำได้ถึงตามมาตรฐานซีรีส์ Marvel แล้ว สิ่งที่เป็นจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ การวางคาแรกเตอร์ให้กับ ‘ออสการ์ ไอแซก’ (Oscar Isaac) ต้องแสดงเป็นถึง 3 คาแรกเตอร์
แถมแต่ละตัวยังเข้า ๆ ออก ๆ แบบไร้กระบวนท่าเสียด้วย มันก็เลยทำให้ตัวละครตัวนี้มีความซับซ้อนและเข้าใจยากกว่าฮีโรตัวอื่น ๆ ใน MCU อยู่พอสมควร moon knight ความสามารถ
รีวิว moon knight
รีวิว moon knight ที่ผ่านมา ซีรีส์ในจักรวาล MCU มักจะใช้ตัวละครจากในฝั่งภาพยนตร์ หรือมีเนื้อเรื่องที่เกี่ยวโยงกับฝั่งภาพยนตร์มาเป็นตัวเล่าเรื่อง ในมุมหนึงวิธีการนี้เป็นผลดีเพราะทำให้แฟนหนังตามมาดูซีรีส์ แต่ในอีกมุมก็ทำให้จำกัดความคิดสร้างสรรค์เพราะต้องผูกกับบุคลิกและเรื่องราวจากฝั่งหนัง
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ Moon Knight โดดเด่นออกมาจากซีรีส์เรื่องอื่นๆของ Marvel เพราะใช้ตัวละครใหม่พร้อมเนื้อเรื่องที่ไม่ผูกกับภาพยนตร์เรื่องก่อนๆ เลย ตัวซีรีส์จึงมีอิสระอย่างเต็มที่ ตอนแรกเนื้อเรื่องเรียกว่ายังเก็บงำความลับไว้เยอะมากๆ แง้มออกมาเพียงบางส่วนเท่านั้น
เรียกว่าไม่มากพอที่จะตัดสินเรื่องนี้แต่ก็เพียงพอที่จะกระตุ้นต่อมให้อยากดูตอนต่อไป ส่วนที่ชอบของเรื่องนี้ขอยกให้การใช้การหลับๆ ตื่นๆ มาเล่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และฉากเล่นกับกระจกที่อาจไม่ใช่เทคนิคใหม่ แต่ทำออกมาได้น่าสนใจ Oscar Isaac แสดงได้ดี ถ่ายทอดความสับสนจนใกล้เพี้ยนของตัวละครออกมาได้ดี และฉากกระทืบแบบสมน้ำสมเนื้อตอนจบเหมือนเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเรื่องนี้จะเอาจริงกับฉากรุนแรงแล้วนะ เราจะไม่ทำแบบขอไปทีแบบที่ผ่านมาแล้ว
โดยในซีรีส์ได้ทีมผู้กำกับ 3 คนมาร่วมกันกำกับมินิซีรีส์ความยาว 6 ตอนนี้ ทั้ง ‘จัสติน เบนสัน’ (Justin Benson) และ ‘อาร์รอน มัวร์เฮด’ (Aaron Moorhead) ผู้กำกับคู่หูจากภาพยนตร์ ‘Synchronic’ (2019) และ ‘โมฮัมเหม็ด ดิอับ’ (Mohamed Diab) ผู้กำกับชาวอียิปต์แต๊ ๆ ที่เคยกำกับภาพยนตร์ ‘Clash’ (2016) มารับหน้าที่กำกับ Ep.1 ก่อนใครเพื่อน และยังมี ‘เจเรมี สเลเตอร์’ (Jeremy Slater) ผู้ผ่านงานเขียนบท ‘The Umbrella Academy’ (2019) และ ‘Fantastic Four’ (2015) มารับหน้าที่เขียนบท Moon Knight EP.
สรุป
โดยสรุปแบบสั้น ๆ ครับ นี่คือซีรีส์ฮีโร Marvel ที่ถือว่าน่าจะเฮี้ยนที่สุดในบรรดาซีรีส์ทั้งหมดแล้วล่ะครับ นี่แค่อีพีแรกนะเนี่ย (555) ทั้งการดำเนินเรื่องที่ค่อย ๆ ทวีความบ้าคลั่งได้อย่างน่าตื่นเต้น จากซีรีส์แอ็กชันผจญภัย กลายเป็นความสยองขวัญที่ค่อย ๆ เพิ่มความเฮี้ยนได้อย่างน่าตื่นเต้น
ปริศนาระหว่างทางที่วางไว้ได้อย่างน่าค้นหา วิธีการเดินเรื่องและตัดต่อที่น่าสนใจ และพลังของนักแสดงที่ชวนให้กระตุกจิตกระชากใจ ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นซีรีส์ที่ผู้เขียนเองก็หงุดหงิดว่าเมื่อไหร่ตอนใหม่จะมาซะที! moon knight เสียชีวิต