รีวิว Ready or Not เกมพร้อมตาย

ส่วนประเด็นเรื่องชนชั้นฐานะ และแขวะคนรวย ก็มีบ้างพอกล้อมแกล้ม เช่น เมียของพี่เขย ซึ่งเป็นคนนอกและมาจากรากหญ้าเหมือนนางเอกเนี่ย นาง embrace และกระตือรือล้นที่จะสานต่อประเพณีนี้มาก เพราะเธอพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวคนรวยจริง ๆ ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรก็ตาม

ถ้าไม่นับคนใช้ นางเอกเป็นคนนอกคนเดียวในหนัง เป็นเหมือนแพะ ที่ต้องมาตกเป็นเหยื่อให้พวกคนชั้นสูงพวกนี้ไล่ล่าและจับไปบูชายัญเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษและผีผู้มีพระคุณแก่วงศ์ตระกูล ซึ่งต้องชื่นชมมาก ๆ ว่า Samara Weaving แสดงดีมาก ชอบพัฒนาการของตัวละครที่ไต่ขึ้นเรื่อย ๆ ภายในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เธอได้ใจคนดูทุกซีน ต้องหัวเราะและปรบมือให้เธอหลายทีเลย คิดว่าเรื่องนี้น่าจะแจ้งเกิดให้ Samara Weaving ได้มีโอกาสเจริญรอยตามรุ่นพี่อย่าง Margot Robbie ไป ไม่ช้าก็เร็ว

โดยวิคเตอร์ เลอ โดมาส ต้นตระกูลในขณะนั้นเป็นลูกเรือบนเรือค้าขาย เขาได้เล่นเกมกับชายปริศนาที่ชื่อ มิสเตอร์เลอเบล วิคเตอร์เป็นผู้ชนะในเกมนี้ เขาได้รับกล่องวิเศษที่ช่วยทำให้ตระกูล เลอ โดมาสประสบความสำเร็จจนกลายเป็นมหาเศรษฐี และกลายเป็นกล่องที่จะเลือกเกมให้สำหรับสมาชิกใหม่ที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลนี้ด้วยเช่นกัน

หนังทำเรื่องเล่านี้ให้ดูคลุมเครือ ว่าเป็นเรื่องแค่ความเชื่อหรือเป็นเรื่องจริงเหนือธรรมชาติ? โดยเหล่าตัวละครในครอบครัว เลอ โดมาส เชื่อว่า ถ้าไม่เล่นเกมก็ต้องตายเอง แต่ก็มีบางคนลังเลว่าจริงหรือไม่กับความเชื่ออันนี้ ซึ่งหนังใช้ตรงนี้มาเขียนบทให้ทั้งคนดูและตัวละครในเรื่องรู้สึกสับสนคลุมเครือไปพร้อมๆ กัน โดยที่มีนางเอกเป็นแกนกลางของเรื่องที่เลือกเชื่อว่าเรื่องเล่านั้นไม่จริง และพวกนี้เป็นฆาตกรบ้าคลั่งเอง

ดังนั้นนี่จะไม่ใช่หนังไล่ฆ่ากันจากสาเหตุธรรมดาทั่วไป ตัวหนังบิ้วให้เราคิดตามมุมมองของนางเอกที่เป็นคนปกติว่า “นี่มันเรื่องบ้าสติแตกอะไรวะ” จากการที่หนังอัดมุกตลกเลือดสาด+สติแตก จากการไล่ล่าเข้ามาได้ตลอดเวลา และทำให้คนดูอย่างเราหัวเราะตามได้จริงจัง แม้จะเห็นฉากเลือดสาดพุ่งเป็นลิตรอยู่ตรงหน้าแท้ๆ

แต่อีกด้านของมุกตลกก็ทำให้คนที่คาดหวังหนังแนวไล่ล่ากันแบบซีเรียสจริงจังรู้สึกว่าหนังไม่ได้ดูลุ้นหวาดเสียวตัวโก่งแบบที่ควรจะเป็น แม้หนังพยายามให้นางเอกเข้าไปติดกับหรือแอบรอดไปได้อย่างสะบักสะบอมตลอดเรื่อง แต่ก็เป็นการรอดที่มาพร้อมมุกตลกตบท้ายตลอดเวลา แถมหลายครั้งเอาตัวรอดแบบง่ายๆ ไม่เมคเซนส์

จนทำให้อารมณ์ของหนังไล่ล่าที่ต้องหวุดหวิดหวาดเสียวหายไปเกือบหมด ส่วนตัวไม่รู้สึกถึงอารมณ์นี้สักเท่าไหร่เลย ยกเว้นฉากเดียวที่นางเอกปีนบันไดพร้อมมือที่เลือดโชก ซึ่งนี่แหละคืออารมณ์แท้ๆ ของหนังแนวนี้ที่ควรจะมี แต่กลับโดนมุกตลกกลบหายไปเกือบหมด ซึ่งเรื่องนี้ก็คงแล้วแต่ความชอบส่วนตัวของแต่ละคน

หรือคนที่เฉยเมยไม่อยากมีส่วนร่วม แต่ก็ทำไปงั้นๆ ตามประเพณีให้จบๆ ไป แต่หนังก็ยังไม่ลืมใส่ตัวละครที่มีความรู้สึกนึกคิดผิดชอบชั่วดีไว้เช่นกัน ซึ่งทำให้หนังเรื่องนี้แลดูมีความสมจริงซ่อนอยู่ในแบบที่ตัวละครปกติคิดกัน ท่ามกลางความวิปลาศอันแสนวุ่นวายนี้ และก็กลายเป็นจุดพลิกที่ช่วยตบให้เรื่องราวกลับมามีอะไรที่มากกว่าการไล่ฆ่าหรือมุกตลกที่อัดเข้ามาในเรื่อง

คือการกลับมาปรากฏตัวของ แอนนี แม็กโดเวลล์ นางเอกแถวหน้าจากยุค 90s เธอเป็นเจ้าของบทนำในหนังระดับตำนานหลายเรื่อง Groundhog day (1993), Four Weddings and a Funeral (1994) และ Hudson Hawk (1991) แอนดี กลับมารับบทขุ่นแม่ในเรื่องนี้ด้วยวัย 61 ปี ใบหน้าก็สมวัยละครับเหี่ยวย่นทั้งหน้า แต่สำหรับคนที่เคยเห็นเธอในวัยสวยสุดมาแล้ว ก็ต้องทำใจพอควรกับการยอมรับสัจธรรมชีวิตอันน่ากลัว แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีร่องรอยความสวยในวัยสาวให้เห็นอยู่นะ

Ready or Not จัดอยู่ในกลุ่มหนังสยองขวัญมาตรฐานระดับกลาง ในสัปดาห์ที่ไม่มีหนังฟอร์มใหญ่แบบนี้ก็เป็นตัวเลือกที่แนะนำไม่เสียดายเงินไม่เสียดายเวลาแน่นอน แต่ถ้าพลาดไปก็ไม่น่าเสียดายแต่อย่างใด

ในตอนจบของเรื่องนี้ขอบอกไว้เลยว่าตลกร้ายมากๆ ลองเดาดูสิมันยากเกินกว่าที่เพื่อนๆจะเดาได้แน่นอน แอบทำให้ผิดหวังเล็กน้อย ทั้งๆที่ดำเนินเรื่องมาทั้งหมดสนุก ดีและน่าติตามมากๆ แต่จะเป็นการตลกร้ายยังไงนั้น เพื่อนๆต้องไปติดตามรับชมกันเอง เพื่อไม่ให้เป็นการสปอยที่มากจนเกินไปนั่นเอง ส่วนตัวแล้วชอบนะ ให้คะแนน 8 เต็ม 10