รีวิว The 100

รีวิว The 100

หนังว่าด้วยเรื่องของวัยรุ่น​ 100 คน​ ที่เป็นนักโทษอยู่บนอวกาศ​ที่จำเป็นต้องกลับมายังโลกเพื่อตรวจสอบดูว่าสามารถใช้ชีวิตได้ไหมหลังมีกัมมันตรังสีระเบิด หนังเล่าเรื่องการเอาตัวรอด​ การตั้งถิ่นฐาน​ใหม่ การใช้ชีวิตในโลกที่มีแต่กัมมันตรังสี​ หลังจากพวกเขาอาศัยอยู่ได้ไม่นานก็ได้รู้ว่ามันไม่ได้มีแค่พวกเขา​ มันยังมีชนเผ่าอื่นๆอยู่ด้วย​ นั่นทำให้มีเรื่องราวการทำสงครามระหว่างเผ่า​เพื่อหาสถานที่​ ที่เหมาะกับการใช้ชีวิต​และการหักหนักเพื่อเอาตัวรอด​

 

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่หนังวัยรุ่นธรรมดาหากคุณได้ดูคุณจะคิดมาก

 

สรุปเรื่องนี้แมร่งโครตดี​ ช่วงแรกๆอาจจะน่าเบื่อแต่หลังๆนี่แบบโครตมัน​ ลุ้นตลอดทุกตอน​ ปัจจุบันมี​ 5 Season​ แล้ว​แต่ใน​ Netflix​ ยังมีแค่​ 3 Season​ ส่วน​ Iflix​ มี​ 4 Season​ ครับ

 

รีวิว The 100 พล็อตเรื่อง

คนที่กระทำผิดส่วนใหญ่แล้วมักจะต้องเข้าไปรับโทษอยู่ในเรือนจำ เมื่อพวกเขากลายสภาพจากประชาชนคนที่กระทำความผิดส่วนใหญ่แล้วก็มักจะต้องเข้าไปรับโทษอยู่ในเรือนจำธรรมดาทั่วไปเป็นนักโทษแล้วความเท่าเทียมกันในด้านความเป็นมนุษย์ก็ดูเหมือนจะหายไปในพริบตาแน่นอนว่าพวกเขาเป็นมนุษย์ที่กระทำความผิดจนทำให้เราต้องคุมขังพวกเขาไว้ แต่อย่างไรก็ตามศีลธรรมและมนุษยธรรมก็ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องถกเถียงเกี่ยวกับการปฏิบัติกับเหล่านักโทษพวกนี้ สปอยซีรี่ย์

 

 

เราจะเห็นการสะท้อนประเด็นต่างๆเหล่านี้ออกมาในสื่อบันเทิงมากมายไม่ว่าจะเป็นละครหรือภาพยนตร์รวมไปถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์อย่างเช่นการเกณฑ์นักโทษไปสร้างเมืองการเกณฑ์นักโทษไปเป็นทหารหรือภาพยนตร์เรื่อง Suicide Squad ที่ใช้นักโทษเป็นทีมเดนตายไปต่อสู้กับใครก็ไม่รู้ที่แทบจะเอาชนะไม่ได้แบบไม่สนชีวิตเช่นเดียวกับซีรีส์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้บน Netflix  ซีรี่ย์แนะนำ

 

 

นั่นก็คือ The 100 ซีรีส์เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สะท้อนให้เราได้เห็นถึงการปฏิบัติกับนักโทษเหมือนกับพวกเขาไม่ใช่คนด้วยการส่งพวกเขาขึ้นไปบนดวงดาวแห่งหนึ่งที่ไม่มีใครรู้ว่าสภาพความเป็นอยู่บนนั้นเป็นอย่างไรเพื่อทดสอบว่ามนุษย์จะสามารถย้ายขึ้นไปตั้งถิ่นฐานบนดาวดวงนั้นได้หรือไม่ไม่เพียงเท่านั้นมันยังเป็นภาพยนตร์ที่สามารถสะท้อนเบื้องลึกของจิตใจมนุษย์เมื่อต้องอยู่ท่ามกลางสภาวะที่จะต้องเอาตัวรอดในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายอีกด้วยเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไรวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับซีรีส์เรื่องนี้ให้มากยิ่งขึ้นกัน

 

The 100 เป็นซีรีส์ที่จะเล่าถึงโลกมนุษย์ในอนาคตที่ถูกมหันตภัยจากปรมาณูทำลายล้างจนแทบจะไม่อาศัยอยู่ได้อีกต่อไปมนุษย์ทุกคนจำเป็นต้องอพยพย้ายถิ่นฐานขึ้นไปอยู่บนอาณานิคมอวกาศที่มีชื่อว่าอาร์ค แต่อาณานิคมอวกาศแห่งนี้ก็เป็นเพียงแค่ที่ลี้ภัยชั่วคราวเท่านั้นพวกเขาต้องพยายามพิสูจน์ให้ได้ว่าโลกมนุษย์ที่เราเดินทางจากมานานแสนนานนั้นตอนนี้จะสามารถอาศัยอยู่ได้แล้วหรือไม่ก่อนที่วิกฤตก๊าซออกซิเจนสำหรับการหายใจบนอาณานิคมอวกาศจะไม่เพียงพออีกต่อไป ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

 

และทำให้ทุกคนต้องตายการส่งคนไปยังดวงดาวที่ไม่เคยมีใครรู้จักมาก่อนมันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากการส่งไปตายด้วยเหตุนี้สมาชิกสภาจึงได้มีการประชุมและลงมติให้ทำการส่งนักโทษรุ่นเยาวชนจำนวนทั้งหมด 100 คนเดินทางลงไปยังโลกมนุษย์ที่พวกเขาจากมาเป็นระยะเวลานานเพื่อหนีภัยร้ายจากปรมาณูเพื่อพิสูจน์ว่าโลกใบนี้จะยังคงสามารถใช้อยู่อาศัยได้เหมือนเดิมต่อไปหรือไม่หลังจากที่นักโทษเยาวชนทั้ง 100 คนได้เดินทางลงไปยังโลกสำเร็จ

 

 

พวกเขาก็ต้องพบว่าโลกใบนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปมันเต็มไปด้วยซากปรักหักพังและธรรมชาติที่ทำการยึดโลกใบนี้เอาไว้เพื่อเอาคืนสิ่งที่มนุษย์ทำลายเอาไว้เป็นระยะเวลายาวนานกว่าหมื่นปีสารกัมมันตภาพรังสีจากปรมาณูนั้นไม่ได้เพียงแค่เปลี่ยนโลกใบนี้ให้ทรุดโทรมมากยิ่งขึ้น

 

 

และทำให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟูหลังจากที่มนุษย์หนีไปเท่านั้น แต่มันยังได้เปลี่ยนให้สัตว์ที่อาศัยอยู่บนโลกกลายเป็นสัตว์กลายพันธุ์ที่เต็มไปด้วยความดุร้ายไม่เพียงเท่านั้นยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นที่หมายปองจะจับจองโลกเป็นอาณานิคมใหม่อีกด้วยด้วยเหตุนี้คลาร์กกริฟฟินซึ่งเป็นลูกสาวของหมอและเบลามเบลควัยรุ่นหัวกบฏก็ได้ทำการตั้งตัวเป็นหัวหน้าพวกเขาต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยธรรมชาติสัตว์กลายพันธุ์และผู้คุกคามจากดินแดนที่พวกเขาไม่รู้จักที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายให้สำเร็จ ซีรี่ย์แนะนำ

 

 

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง The 100

จะบอกว่าภาพยนตร์เรื่อง The 100 เป็นซีรีส์แนว Survivor Adventure ก็อาจจะไม่ผิดนักเพราะแกนหลักของเรื่องราวที่สำคัญที่สุดคือการที่คน 100 คนที่เป็นนักโทษเยาวชนถูกส่งมายังโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและพวกเขาต้องพยายามเอาชีวิตรอดให้ได้ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนไปจากสารกัมมันตภาพรังสีโดยปรมาณูและสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่พวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อนที่ต้องการจะยึดครองดินแดนบนโลกเอาไว้

รีวิว The 100

แต่เพียงผู้เดียวด้วยความที่มีตัวละครถึง 100 คนแถมยังมีภัยคุกคามจากสภาพแวดล้อมรอบข้างมันทำให้เราแทบจะเอาอะไรไม่ได้เลยว่าเรื่องราวนั้นจะดำเนินต่อไปในทิศทางไหนหรือดำเนินไปอย่างไรซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่มีความสมจริงอย่างหนึ่งคือตัวละครแต่ละตัวนั้นเป็นเพียงแค่เยาวชนที่เติบโตขึ้นมาบนอาณานิคมอวกาศความรู้ที่เขามีเกี่ยวกับโลกใบนี้แทบจะเป็นศูนย์ด้วยเหตุนี้มันจะมีบางฉากที่เรารู้สึกหงุดหงิดกับการตัดสินใจแบบไม่สมเหตุสมผลหรือไม่คิดหน้าคิดหลังของตัวละคร

 

 

จนทำให้ใครบางคนต้องตายน่าเสียดายที่ความสมจริงของซีรีส์เรื่องนี้กับทำให้ผู้รับชมอย่างเรารู้สึกหงุดหงิดมากกว่ารู้สึกอินตามไปด้วย แต่หากคุณสามารถผ่านช่วงเวลาแรกเริ่มของซีรีส์เรื่องนี้ที่ตัวละครของเรายังไม่รู้อะไรเลยไปได้หลังจากนั้นความสนุกในการเอาตัวรอดก็จะเพิ่มมากยิ่งขึ้นและที่สำคัญภาพยนตร์ยังสามารถนำเสนอมุมมืดในจิตใจของมนุษย์

 

 

ที่ต้องการจะเอาตัวรอดได้เป็นอย่างดีและมีความสมจริงด้วยความที่ตัวละครของเราเป็นวัยรุ่นดังนั้นเราจึงจะได้เห็นความพยายามที่พวกเขาจะเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็ยังคงตัดสินใจผิด ๆ อยู่เสมอความเห็นแก่ตัวที่ต้องการจะเอาตัวรอดของแต่ละคนที่ทำให้พวกเขาต้องแตกคอกันโดยรวมแล้วมันเป็นซีรีส์ที่สามารถสร้างความสนุกสนานให้กับผู้รับชมอย่างเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

 

เมื่อโลกถูกล้างผลาญด้วยมหันตภัยนิวเคลียร์ ทำให้มนุษย์ต้องอพยพไปอยู่บนนิคมอวกาศชื่อ ดิอาร์ค แต่ด้วยวิกฤติการณ์ที่ก๊าซออกซิเจนสำหรับหายใจกำลังขาดแคลน เหล่าสมาชิกสภามีมติให้ส่งนักโทษเยาวชนจำนวน 100 คนลงไปบนโลกเพื่อพิสูจน์ว่าโลกที่พวกเขาจากมานานยังสามารถอาศัยอยู่ได้หรือไม่

 

และทันทีที่พวกเขาแตะพื้นโลก นอกจากต้องเผชิญเหล่าสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์แล้ว พวกเขาอาจไม่ใช่มนุษย์เพียงกลุ่มเดียวที่ต้องการเป็นเจ้าของพื้นโลก ทำให้ คลาร์ก กริฟฟิน (เอลิซา เทเลอร์) ลูกสาวแพทย์จากดิอาร์ค และ เบลามี เบลค (บ็อบ มอร์ลีย์) หนุ่มหัวขบถที่ตั้งตัวเป็นหัวหน้า ต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากทั้งมหันตภัยธรรมชาติเป็นพิษและเหล่านักรบเผ่ากราวเดอร์ผู้เหี้ยมโหด

 

 

เมื่อเหล่าประชากรจาก ดิอาร์ค ลงมาตั้งนิคม อาร์เคเดีย อาศัยบนโลกแล้วก็ต้องเผชิญศึกกับเหล่ากราวเดอร์มนุษย์เผ่านักรบเจ้าถิ่นที่ต้องการยึดโลกคืนจากพวกเขา ในขณะที่เหล่าพ่อแม่ต่างดั้นด้นตามหาลูกที่ได้ลงมาบนโลกใน100คนแรก  โดยไม่รู้เลยว่าคลาร์กและเพื่อนของเธอบางส่วนถูกจับตัวไปยัง เมาธ์เวเธอร์ อาณานิคมมนุษย์บนเขาสูงที่รอดพ้นจากภัยนิวเคลียร์แต่ไม่อาจสัมผัสอากาศนอกบังเกอร์ได้ และคลาร์กก็ได้รู้ความลับที่เหล่าคนภูเขาสูงกำลังใช้ชีวิตของพวกเธอเป็นกุญแจสู่การกลับสู่พื้นโลกได้อีกครั้ง

รีวิว The 100

รีวิว The 100 ความรู้สึกหลังดู

มิตรภาพเริ่มถูกทดสอบเมื่ออำนาจทางการเมืองใน อาร์เคเดีย ถูกผลัดมือมาสู่ผู้ไม่เห็นด้วยกับการผูกมิตรกับเผ่ากราวเดอร์  ซึ่งสั่นคลอนทั้งต่อเสถียรภาพด้านการฑูตกับกราวเดอร์ทั้ง 12 เผ่า และยังทำให้มิตรภาพระหว่างเพื่อน พี่น้อง ต้องขาดสะบั้น ลง ในขณะเดียวกันยาประหลาดที่อดีต ประธานาธิบดี เธโลเนียส จาฮา (ไอเซียอา วอร์ชิงตัน) นำกลับมาอาร์เคเดีย ก็กลายเป็นภัยครั้งใหม่และเป็นกุญแจสู่สาเหตุที่ทำให้โลกต้องล่มสลายด้วยภัยนิวเคลียร์เมื่อเกือบ 100 ปีก่อน

 

เดินเรื่องต่อจาก Season 3 เมื่อระเบิดเวลาที่พร้อมล้างโลกถูกตั้งไว้อีก 6 เดือนเท่าให้ คลาร์ก เบลามี และผองเพื่อนต้องร่วมกันไขปริศนาท่ามกลางสงครามระหว่างชาติพันธุ์ให้ได้ก่อนจะไม่มีโลกให้พวกเขาอยู่อาศัยอีกต่อไป ด้วยโครงเรื่องการเอาตัวรอดจากโลกอนาคตเลวร้ายหรือดิสโทเปีย (Dystopia)

 

ผนวกกับเรื่องการสู้รบ เราอาจบอกได้ว่า The 100 คือส่วนผสมระหว่าง นิยาย Lord of the flies ที่ว่าด้วยเยาวชนสูญเสียความบริสุทธิเมื่อได้ลิ้มรสอำนาจ  ผนวกเข้ากับหนังจากวรรณกรรมไซไฟเยาวชนผสมการเมืองที่มี The hunger games เป็นหัวหอก พ่วงด้วยการแบ่งเผ่ารบแบบ Game of Thrones จนทำให้การดำเนินเรื่องของมันเข้มข้นและมีเอกลักษณ์ ส่วนตัวผู้เขียนมองว่าเรื่องราวแต่ละซีซั่นทำให้หวนรำลึกถึงหนังโรงดังๆ ได้เลยอาทิ

 

 

ซีซันแรก ผสมกันระหว่างนิยาย Lord of the flies และ The hunger games กล่าวถึงเยาวชนที่ถูกผู้ใหญ่ลงทัณฑ์ปล่อยให้เผชิญกับความโหดร้ายของโลกที่พวกเขาไม่รู้จักและอำนาจกำลังทำให้พวกเขาสูญเสียความบริสุทธิ

 

 

ซีซั่นสอง มีทั้งอารมณ์แบบหนังสยองขวัญโดยเฉพาะ Scene ในเมาธ์เวเธอร์ที่คล้ายหนังสยองขวัญทรมานร่างกาย (Body Horror) อย่าง COMA โคม่าธนาคารคนดิบ ผสมซีรีส์ Game of Thrones

 

 

ซีซั่นสาม นอกจากเรื่องรบที่ให้อารมณ์แบบซีรีส์ Game of Thrones แล้ว ยังมีพาร์ทที่ทำให้คนคล้ายเป็น ซอมบี้แบบในซีรีส์ The Walking Dead อีกด้วย

 

 

ซีซันสี่ กำลังออกอากาศทางช่อง CW เวลานี้เดินเรื่องต่อจากตอนจบซีซัน3. เมื่อเหล่าชาวอาร์เคเดียก็ยังต้องต่อกรกับชนเผ่ากราวเดอร์อื่นๆ พร้อมบทพิสูจน์ความภักดีทั้งต่อชาติพันธุ์และมิตรภาพระหว่างความเป็นเพื่อนที่ทีนี้สานต่อ ความเป็น Game of Throne เข้ากับบรรยากาศการรบในอนาคตแบบ Mad Max เลยทีเดียวรีวิว The 100

เรื่องย่อ ผ่านมาหนึ่งศตวรรษหลังจากเหตุการณ์นิวเคลียร์ที่ได้ทำลายล้างโลก และมวลมนุษย์ที่ได้หนีขึ้นไปอยู่บนสถานีอวกาศ ได้มีแผนการส่งคนทั้ง 100 คนกลับมาที่โลกเพื่อตรวจสอบโลกแหล่งที่อยู่ นำไปสู่เหตุการณ์การเอาตัวรอดจากสิ่งต่างๆที่มีอยู่บนโลก ทั้งกลุ่มมนุษย์ผู้รอด ชนเผ่า สัตว์อันตราย สารเคมี และเหล่าคนทั้ง 100 คนจะต้องเจอกับอะไรบ้าง จะมีคนรอดและมนุษย์จะสามารถกลับมาอยู่ที่โลกได้หรือไม่

 

 

โดยซีรีย์เรื่องนี้เป็นซีรีย์ไซไฟ การต่อสู้ และการเอาตัวรอดที่มีเรื่องราวต่างๆให้ลุ้นในทุกตอน และเห็นถึงสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของแต่ละคน ความดิบเถื่อนของมนุษย์เรา เนื้อเรื่องมีอะไรแปลกใหม่ให้เราติดตามทุกตอน และมีการเชียร์ตัวละครที่เราคอยเอาใจช่วย ทั้งหมดทั้งมวลอีกเช่นเคยว่า “ควรค่าแก่การดู”

 

 

สวัสดีครับเพิ่อนๆทุกคน วันนี้ผมมี ซีรีส์ใน Netflix มาแนะนำใฟ้ทุกคนได้ไปดูกัน ซึ่งวันนี้ผมจะมาแนะนำเรื่อง The 100 หรือชื่อไทย เดอะ 100 ฝ่าโลกมฤตยู ซีซันที่ 1 โดยเป็นหนังแนวไซไฟที่ทำให้ผู้ชมทั่วโลกสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยตัวหนังเป็นแนวที่ค่อนค้างแปลกใหม่ ส่วนตัวผมได้ดูจนจบซีซั่นที่ 1 แล้ว ซึ่งมันสนุกมากในแต่ล่ะตอน บทในช่วงแรกอาจจะน่าเบื่อแต่ช่วงกลางเรื่องนั้นทำให้ลุ้นระทึกอย่างมาก แต่ก่อนจะเล่าเรื่องไปมากกว่านี้ผมอยากให้เพื่อนๆรู้จักหนังเรื่องนี้กันก่อน

 

 

เมื่อโลกถูกล้างผลาญด้วยมหันตภัยปรมาณู ทำให้มนุษย์ต้องอพยพไปอยู่บนนิคมอวกาศชื่อ ดิอาร์ค แต่ด้วยวิกฤติการณ์ที่ก๊าซออกซิเจนสำหรับหายใจกำลังขาดแคลน เหล่าสมาชิกสภามีมติให้ส่งนักโทษเยาวชนจำนวน 100 คนลงไปบนโลกเพื่อพิสูจน์ว่าโลกที่พวกเขาจากมานานยังสามารถอาศัยอยู่ได้หรือเปล่า และทันทีที่พวกเขาแตะพื้นโลก นอกจากต้องเผชิญเหล่าสัตว์แปลกกลายพันธุ์แล้ว พวกเขาอาจไม่ใช่มนุษย์เพียงกลุ่มเดียวที่ต้องการเป็นเจ้าของพื้นโลก ทำให้ คลาร์ก กริฟฟิน

 

 

(เอลิซา เทเลอร์) บุตรสาวแพทย์จากดิอาร์ค และ เบลามี เบลค (บ็อบ มอร์ลีย์) ชายหนุ่มหัวขบถที่ตั้งตัวเป็นหัวหน้า ต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากทั้งมหันตภัยธรรมชาติเป็นพิษและเหล่านักรบเผ่ากราวเดอร์ผู้เหี้ยมโหด

ดูจากเรื่องย่อก็น่าสนุกแล้วใช่ไหมล่ะ

 

 

รีวิว The 100

ซึ่งโครงเรื่องของซีรีส์กว้างมากเลยทำให้ลุ้นอยู่ตลอดว่าจะเกิดอะไร ส่วนตัวผมคิดว่าเป็นหนังที่คาดเดาได้อยากมาก คนดูไม่อาจคาดถึงเลยในแต่ล่ะตอนผมนี่งุดงิดเหมือนกันในตอนแรกๆที่ ตายกันง่ายเกิ๊น แถมทำอะไรแม่งไม่คิดกันเลย คิดแต่สนุกกัน คือแบบพวกเอ็งมาเพื่อสำรวจโลกน่ะเว้ยไม่ได้มาเที่ยว กว่าพวกเอ็งจะคิดได้ความฉิบหายมันมาถึงแล้ว (ความเห็นส่วนตัวน่ะ 555) ออกจากการหัวร้อนมารีวิวกันต่อเถอะ

 

 

ในส่วนของตัวละคร ซึ่งตัวละครแต่ละตัวก็จะมีพลอตความหลังของตัวเองซึ่งทำได้ดีมากตัวละครส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นทีมีลักษณะจิตวิทยาของวัยรุ่นจริงๆและมีการพัฒนาของความคิดให้ได้เห็นภายในเรื่องและยังมีมุมมืดๆของแต่ละตัวละครค่อยๆเผยออกมาในแต่ล่ะตอน บางคนดูเหมือนจะดีในช่วงแรกแต่ก็เผยความมืดในตัวเองออกมา ขอเสริมน่ะครับ 100 คนที่ส่งมาบนโลกส่วนใหญ่จะเป็นนักโทษครับ อาจจะมีบางคนที่เก่งในแต่ล่ะด้านที่ส่งมาช่วยพวกนักโทษ รวมถึงนางเอกด้วยยย

 

 

 

เอาล่ะมาให้คะแนนเรื่องนี้กัน เต็ม 10 ผมให้ 9 เลยสำหรับเรื่องนี้  ส่วนตัวผมชอบที่ตัวละครแต่ล่ะตัวมีพลอตความหลังของตัวเอง ด้านมืดในตัวเอง แถมการผจญภัยในโลกที่ไม่มีคนอยู่มานาน เหมือนกับการไปต่างดาวเลย ซึ่งสามารถดูโดยเรื่อยๆโดยไม่เบื่อ สว่นตัวอยากแนะนำให้เพื่อนที่ชอบแนวไซไฟ ผจญภัย ไปหามาดูโดยด่วนไม่งั้นอาจพลาดซีรีส์สนุกมากๆเรื่องหนึ่งไปได้ ซึ่ง The 100 มีให้ชมทาง Netflix ปัจจุบันมีทั้งหมด 6 ซีซั่น อย่าลืมไปหามาดูล่ะ ไม่งั้นคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องแน่เตื่อนแล้วน่ะ

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *