รีวิว what If
ซีรี่ย์แนะนำ สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาแนะนำซีรี่ย์อนิเมชั่นภาคแยกของมาเวล อย่าง what If ที่เป็นอนิเมชั่นซีรีส์ที่ฉายลงทาง Disney+ Hotstar โดยในซีซั่นแรกนั้นได้ออกฉายมาทั้งหมดนั้นรวมทั้งสิ้น 9 ตอน ความยาวตอนละประมาณ 30 นาที โดยเนื้อหาก็จะอ้างอิงจาก Marvel Cinematic Universe ที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันมาร่วมสิบปี แต่จะมีการเปลี่ยนเนื้อหาตามชื่อเรื่องเลยคือ What If…? ถ้าหากมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่เราเคยรู้จักเกิดขึ้น จะเกิดผลอะไรตามมา
สปอยซีรี่ย์ WHAT IF…? เป็นอนิเมชั่นซีรีส์ที่จะถูกแบ่งออกเป็นตอนๆ อย่างเช่นตอนแรกมีชื่อเรื่องว่า What If… Captain Carter Were The First Avenger? จะเป็นอย่างไรหากกัปตันคาร์เตอร์ได้เป็นหนึ่งในทีมอเวนเจอร์ชุดแรก หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อกัปตันคาร์เตอร์ แต่ถ้าพูดถึงเพ็กกี้ คาร์เตอร์ทุกคนจะต้องจำได้อย่างแน่นอนเพราะเธอนั้นเป็นตัวละครที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในจักรวาลเนื้อเรื่องของกัปตันอเมริกา โดยจะเล่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรหากกัปตันอเมริกานั้นไม่ใช่สตีฟโรเจอร์แต่เป็นคาร์เตอร์แทน โลกใบนี้จะเป็นอย่างไรเมื่อซุปเปอร์ฮีโร่คนแรกของอเมริกานั้นเป็นผู้หญิง และมันจะนำพามาซึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญที่กระทบต่อเส้นเรื่องทั้งหมดต่อมาหรือไม่ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
รีวิว what If
รีวิว what If WHAT IF…? Disney+Hotstar จะเป็นอย่างไรหากจักรวาล Marvel ไม่ได้เป็นเหมือนที่เราคิด จักรวาลฮีโร่มาร์เวลนั้นถือว่าเป็นจักรวาลที่ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว มีทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ มีทั้งภาคหลักและภาคแยก ทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหรือหากเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ ขึ้นมาแล้วสถานการณ์ในจักรวาลนั้นจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างไรบ้าง
หากใครที่ติดตามเรื่องราวใน Marvel มาตั้งแต่ต้นสมัยซีรีส์เรื่อง Agent of Shield ตลอดมาจนถึงภาพยนตร์ภาคหลักในปัจจุบันล่าสุดอย่าง Spider Man no way Home เราจะพบว่าเรื่องราวนั้นค่อนข้างที่จะมีการแบ่งแยกเวลาเป็นจักรวาลแยกออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หลังจากนี้เราพูดได้เลยว่าอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ในจักรวาลฮีโร่มาร์เวล
และหากคุณอยากรู้ว่าถ้าหากสถานการณ์ไม่ได้เป็นเหมือนกับที่เรารับชมมาในสื่อทั้งภาคหลักและภาคแยกเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรเราขอแนะนำให้ลองรับขมอนิเมชั่นซีรีส์เรื่อง WHAT IF…? เป็นอนิเมชั่นภาคแยกที่จะสามารถตอบคำถามที่เราอยากรู้ได้มากมายแถมมันอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินเรื่องราวในภาคหลักอีกด้วยแม้ว่ามันจะดูเหมือนอนิเมชั่นที่ถูกสร้างออกมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเหล่าแฟนคลับ Marvel
แต่ความจริงแล้วเนื้อเรื่องในอนิเมชั่นซีรีส์เรื่องนี้นั้นจะอ้างอิงตามหนังสือการ์ตูนใน Marvel Comic ทั้งหมดและถูกนักเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่อยู่ในจักรวาล Marvel อีกด้วย ที่น่าสนใจเป็นมากกว่านั้นก็คือมันเป็นซีรีส์อนิเมชั่นเรื่องแรกของค่าย Marvel โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นจะนับตั้งแต่หลังจากซีรีส์เรื่องโลกิในปี 2019 ดังนั้นสำหรับใครที่เป็นแฟนคลับมาเวลแล้วต้องการจะเปิดโลกมัลติเวิลด์เราขอแนะนำให้รับชมอนิเมชั่นเรื่องนี้เลย รับรองว่าคุณจะเข้าใจเรื่องพหุจักรวาลมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
เรื่องย่อ/การดำเนินเรื่อง
แอนิเมชันซีรีส์ของดิสนีย์เรื่องนี้ จะพาสาวกมาร์เวลเข้าสู่ความเป็นไปได้ในระบบพหุจักรวาล ที่ก่อความน่าจะเป็นได้ไม่มีสิ้นสุด ถ้าเอเจนต์คาร์เตอร์เป็นคนได้รับเซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์ล่ะ? หรือถ้าคนที่ยอนดูจับตัวไปตอนเด็กไม่ใช่ปีเตอร์ ควิลล์ แต่เป็นทีชัลล่าล่ะ
เนื้อเรื่องของ ‘What If…?’ ในแต่ละตอนจะมีความไม่เชื่อมโยงกันโดยตรง สามารถดูตอนไหนก่อนก็ได้เลือกที่ตัวละครนำในตอนนั้นที่เราถูกใจ (แต่แน่นอนว่าดิสนีย์จะปล่อยให้ชมสัปดาห์ละตอนเรื่อยไปจนครบ 9 ตอน) ที่น่าสนใจคือเรื่องราวสมมติว่าทั้งหมดนี้เป็นไทม์ไลน์ที่แตกแขนงออกจากเส้นเวลาศักดิ์สิทธิ์ หากอ้างตามเนื้อหาในซีรีส์ ‘Loki’ และตามปกติเราจะไม่รู้หรอกว่ามันมีเหตุการณ์เหล่านี้อยู่ จะมีเพียงพวกองค์กรจัดการด้านเวลาที่จะตรวจสอบแล้วเข้าไปจัดการแก้ไข
แต่ในเรื่องนี้จะเป็นการเล่าเรื่องผ่านสายตาของ เดอะ วอตเชอร์ (The Watcher) ที่ให้เสียงพากย์โดย เจฟฟรีย์ ไรต์ (Jeffrey Wright) ซึ่งพวกเดอะ วอตเชอร์นั้นเป็นมนุษย์ต่างดาวผู้เฝ้ามองปรากฏการณ์ต่าง ๆ ในจักรวาล และมีนโยบายไม่เข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด พวกเขาเคยปรากฏตัวครั้งหนึ่งในฉากสั้น ๆ ของ ‘Guardians of the Galaxy Vol. 2’ (2017)
ซึ่งหากจำกันได้ตอนนั้นจะมี สแตน ลี (Stan Lee) ปรากฏตัวในชุดนักบินอวกาศบนดวงจันทร์พูดคุยกับพวกเขาในฐานะ ผู้ให้ข้อมูลแก่เดอะ วอตเชอร์ (Watcher Informant) ด้วย เป็นสาเหตุว่าทำไมชายชรานามสแตน ถึงไปปรากฏตัวในหนังเรื่องต่าง ๆ ของมาร์เวลได้แม้จะต่างยุค ต่างสถานะ หรือแม้แต่ต่างดวงดาวก็ตาม what if… : season 1
ความประทับใจในซีรี่ย์ what If
งานภาพของ What If…? นั้น ทำออกมาได้สวยงาม และออกแบบฉากแอคชั่นได้ดี บางฉากเลือกที่จะล้อไปกับงานภาพที่เราเคยเห็นในหนัง และบางฉากก็ทำออกมาได้โดดเด่น และสู้กันโครมครามยิ่งกว่าในหนัง เพราะไม่ติดเรื่องข้อจำกัดด้าน CG หรือการใช้คนแสดงอีกต่อไป
ทำให้ออกไอเดียและความอลังการของสเกลพลังได้อย่างเต็มที่สำหรับเนื้อหาในแต่ละตอนนั้นก็เป็นเรื่องราวย่อย ๆ ของหลากหลายตัวละคร และนั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผมไม่รีบเขียนรีวิวตั้งแต่ตอนแรก ๆ เพราะมองว่า What If…? เอง ก็วางตัวเองเป็นซีรีส์ ไม่ใช่ลักษณะของหนังสั้น
กล่าวคือ แม้แต่ละตอนจะเป็นหนังสั้นที่ดูไม่เกี่ยวข้องกัน แต่การเรียงลำดับตอนกลับมีผลอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะตอนของ Captain Carter ที่เดินเรื่องแทบจะเป็นเส้นเรื่องเดียวกับ Captain America เลย แต่ผมมองว่านั่นเพราะซีรีส์ชุดนี้ต้องการเปลี่ยนแปลงทีละเล็ก ทีละน้อย เพื่อให้คนดูเปิดรับความเปลี่ยนแปลงที่จะมากขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนถัด ๆ ไป จนไปถึงตอนท้ายสุดที่เริ่มมีการขมวดปม และเชื่อมโยงภาพรวมของซีรีส์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน what if คืออะไร
รีวิว what If
รีวิว what If อนิเมชั่นเรื่องนี้ของ Marvel Studios เป็นผลงานการกำกับของ ไบรอัน แอนดรูว์ส (Brian Andrews) และนำทีมเขียนบทโดย เอ.ซี.แบรดลีย์ (A.C. Brandley) ถ่ายทอดเรื่องราวเหนือจินตนาการในมิติคู่ขนานผ่าน Cel-sheading หรือเทคนิคการสร้างงานอนิเมชั่นให้มีความแบนแบบสองมิติทำให้อารมณ์ของภาพเหมือนเรากำลังอ่านการ์ตูนแนวคลาสสิคในเวลาเดียวกัน
บอกเลยว่ามาร์เวลทำออกมาได้ดีและเก็บรายละเอียดได้เนียนเชียวล่ะ แต่ละตอนมีความยาวไม่เกิน 30 นาที ซีรีส์จึงเดินเกมเร็วแบบรวบตึงจนบางทีผู้ชมอาจจะยังไม่ทันอินกับเนื้อเรื่องสักเท่าไหร่ก็จบตอนซะดื้อๆ แต่ก็ดูเพลินและสอดแทรกมุขตลกสไตล์มาร์เวลไว้อย่างลงตัว
แม้บางตอนอาจจะไปไม่สุดและจบเร็วจนเราสับสนพร้อมกับเกาหัวเบาๆ แล้วอุทานว่า “อิหยังวะ”อนิเมชั่นของ Marvel Cinematic Universe เรื่องนี้จะพลิกโฉมเหตุการณ์จากโลกภาพยนตร์จนคุณคาดไม่ถึงจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามันไม่ได้เป็นแค่อนิเมชั่นของทีมอเวนเจอร์ส แต่เป็นการเล่นกับความคิดของผู้ชม จะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามันจะส่งผลกระทบต่อเฟส 4 ของจักรวาลมาร์เวล
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามันไม่ใช่แค่เรื่องสมมติอย่างที่หลายคนเข้าใจเพราะทันทีที่ What if…? ซีซั่นแรกใกล้จะออนแอร์ครบทั้ง 9 ตอน แหล่งข่าววงในก็กระซิบมาว่า ซีซั่นสองได้รับการอนุมัติให้เริ่มโปรเจ็กต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (แม้จะขลุกขลักเพราะสถานการณ์โควิด-19 ก็ตามที) เมื่อทุกความทรงจำจากหนังฟอร์มยักษ์ของจักรวาลมาร์เวล กำลังสั่นคลอนอย่างหนัก ในซีรีส์ 9 ตอนที่ออนแอร์ทาง Disney+ (ดิสนีย์พลัส)
บรรดาสาวกมาร์เวลจะรู้กันดีว่า MCU สนุกกับการเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ ในจักรวาลเข้าด้วยกัน แล้วยังชอบวางไข่อีสเตอร์ไว้ในภาพยนตร์จนถึงซีรีส์ (ชนิดที่ตามเก็บไข่กันแทบไม่หวาดไม่ไหว) และที่ดูจะเชื่อมโยงกับอนิเมชั่นชุดนี้ก็มาจากตอนจบของซีรีส์ ‘Loki’ กับเส้นเวลาศักดิ์สิทธิ์ได้แตกแขนงออกไปจนวุ่นวาย
พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ เหตุการณ์ต่างๆ ในโลกคู่ขนานและไทม์ไลน์พังพินาศไปหมด จนเกิดชุดความจริงใหม่ที่คาดเดาไม่ถูกเลยว่าซีรีส์จะพาเราไปสิ้นสุดที่จุดใด เราจึงทำคู่มือฉบับรวบตึงเกี่ยวกับทุกสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนดู What if…? จะได้คุยกับเขารู้เรื่อง! what/if netflix รีวิว
บทสรุปซีรี่ย์
ความว้าวของซีรีส์จึงไม่จบแค่ในตอนของตัวมันเอง ถ้ากิมมิกทั้งหลายที่ถูกคิดมามากมาย ถูกนำไปใช้ต่อล่ะ คนคิดพวกเซอร์ไพรส์ อีสเตอร์เอ้ก กิมมิก ในเรื่องนี้จึงเป็นบทบาทที่น่าสนุกมาก เพราะหยิบใส่อะไรได้เยอะ ทำอะไรมาก็ทำให้คนดูอึ้งทึ่งไปได้ทั้งหมดแน่นอน อย่างตอนแรกที่เราเจอ ไฮดราสตอมเปอร์ เข้าไปนั่นล่ะ ถามว่าสาวกมาร์เวลใครบ้างไม่กรี๊ด การดูรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมถึงความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในซีรีส์จึงเป็นอะไรที่ว้าวมากในตัวอยู่แล้ว
โดยรวมแล้ว What If…? เป็นซีรีส์ที่เหมาะสำหรับแฟน ๆ Marvel Cinematic Universe เท่านั้น และทำออกมาได้สนุก น่าสนใจ ไม่ควรพลาดจริง ๆ แต่ถ้าไม่เคยดู Marvel Cinematic Universe มาก่อน ผมไม่ค่อยแนะนำนะครับ เพราะอาจจะดูไม่รู้เรื่อง หรือไม่เข้าใจความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ ฉาก หลาย ๆ ตอน รวมถึงการปรากฏตัวของหลาย ๆ ตัวละคร แต่ถ้าเคยดูและติดตามมาแล้ว ผมคิดว่าซีรีส์ชุดนี้ไม่ทำให้ผิดหวังครับ What If Marvel EP. 1